เทคโนโลยีดิจิตอลช่วยการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งนรีเวชในยุค New Normal
เทคโนโลยีดิจิตอลช่วยการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งนรีเวชในยุค
new
normal
ผศ.พญ.ณัฐพร
จันทร์ดียิ่ง
ภาควิชาสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
คณะแพทยศาสตร์วชิรพยาบาล
มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช
การระบาดของโควิด-19
ส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งนรีเวช จำนวนผู้ป่วยที่มารับการวินิจฉัย
ดูแลรักษาและติดตามต่อเนื่องลดลง เนื่องจากทั้งความต้องการของผู้ป่วยและจากมาตรการภาครัฐ
และแนวทางลดความแออัดของโรงพยาบาล(1)
สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลต่อ ผลการรักษาผู้ป่วย อัตราการรอดชีวิต รวมทั้ง patient-reported
outcomes (PROs) ต่างๆ เช่น คุณภาพชีวิต ความปวด
จำนวนครั้งที่มาโรงพยาบาลภายหลังการรักษา(2) ด้วยความก้าวหน้าทางการแพทย์ในปัจจุบัน
จึงมีการนำเอาเทคโนโลยีดิจิตอลมาประยุกต์ใช้ เพื่อทำให้การเข้าถึงการรักษาและการติดต่อระหว่างแพทย์และผู้ป่วยยังดำเนินต่อได้
เพื่อลดการเกิดผลกระทบจากการเกิดสถานการณ์การระบาด
นิยาม
เนื่องจากมีการใช้คำที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีดิจิตอลที่หลากหลายเช่น
digital
health, telehealth หรือ eHealth ผู้นิพนธ์จึงขอเริ่มต้นจากคำนิยามเหล่านี้ก่อนเพื่อให้เข้าใจความหมายของเทคโนโลยีดังต่อไปนี้
eHealth
คือการนำเทคโนโลยีนำมาใช้เป็นบางส่วนหรือทั้งหมดในการป้องกัน
การวินิจฉัย การตัดสินใจรักษา การดูแลและติดตามการรักษา
Telemedicine
คือ
การบริการทางการแพทย์ทางไกลถึงผู้ป่วยโดยบุคลากรทางการแพทย์ โดยใช้ telecommunications
platforms โดยสามารถให้บริการทางการแพทย์ได้ทั้งการประเมิน การวินิจฉัย
และการรักษาผู้ป่วย
Telemonitoring
คือ การใช้เทคโนโลยีดิจิตอลเพื่อการติดตามอาการ
หรือสัญญาณชีพของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลจากการติดตามจะส่งมาให้บุคลากรทางการแพทย์ที่อยู่ทางไกลได้ใช้ในการตัดสินใจเพื่อการวินิจฉัยหรือการรักษา
Digital therapeutics
คือการใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการรักษา
โดยอาจนำมาใช้ทั้งกระบวนการเก็บข้อมูล จนถึงการรักษาผู้ป่วย โดยอาจเป็นการใช้ algorithms
มาช่วยในการรักษา
ประโยชน์ของการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลช่วยการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งนรีเวช(2)
(1) ความง่ายในการใช้เนื่องจากผู้ป่วยในยุคปัจจุบันมีความคุ้นเคยต่อการใช้เทคโนโลยีมากขึ้น
(2) เพื่อให้มั่นใจว่ามีการเข้าถึงจริง
หรือเป็นประโยชน์ในการเก็บข้อมูลการใช้
(3) สามารถดัดแปลงใช้ประโยชน์ได้หลากหลาย
(4) สามารถใช้สื่อสารระหว่างบุคลากรทางการแพทย์
(5) เป็นเครื่องมือในการให้สุขศึกษาหรือการให้
psychological intervention แก่ผู้ป่วย
ข้อจำกัดของการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลช่วยการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งนรีเวช(2)
(1) ปัญหาเรื่องการเชื่อมต่อสัญญาณและเครือข่าย
(2) ข้อจำกัดในการใช้เรื่องการสัมผัสตัวผู้ป่วย
การตรวจร่างกาย และการส่งตรวจทางห้องปฏิบัติการ
(3) ปัญหาเรื่องภาษา
เนื่องจากเทคโนโลยียังไม่รองรับภาษาไทย
การใช้เทคโนโลยีดิจิตอลในแต่ละกระบวนการดูแลรักษา
การให้คำปรึกษาและการประเมินก่อนการผ่าตัด
ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
อาจต้องมีการเลื่อน หรือลดการส่งตัวผู้ป่วย
การให้คำปรึกษาทางไกลในลักษณะ tumor boards ซึ่งเป็นการประเมินโดยสหวิชาชีพทางไกลจึงมีบทบาทสำคัญมากขึ้น
เทคโนโลยีโทรเวช หรือ Telemedicine
ทำให้เกิดการเชื่อมต่อการสื่อสารของแพทย์ในโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไปกับสูตินรีแพทย์ในโรงพยาลศูนย์
หรือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยได้ง่ายมากขึ้น
การใช้เทคโนโลยีโทรเวชทำให้เกิดโอกาสในการร่วมมือในการรักษาเช่นการส่งตัวมาผ่าตัดในโรงพยาบาลศูนย์
หรือโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยแล้วส่งตัวไปให้ยาต่อที่โรงพยาบาลทั่วไป หรือโรงพยาบาลชุมชน
โดยสามารถติดต่อแพทย์ในโรงพยาบาลศูนย์หรือ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัย อย่างใกล้ชิด(3) เทคโนโลยีที่ใช้ในกระบวนการดังกล่าวได้แก่
การทำ video conference หรือการส่งภาพรังสี หรือพยาธิวิทยาทางไกล
การใช้โปรแกรมการดูภาพรังสีหรือพยาธิวิทยาร่วมกันระหว่างโรงพยาบาล(4) ในโรงพยาบาล ที่ยังไม่ได้มีการใช้เทคโนโลยีดังกล่าวการใช้การติดต่อทางโทรศัพท์หรือ
แอปพลิเคชันส่งข้อความและรูปเช่น LINE หรือ messenger
ก็สามารถทำได้เช่นเดียวกัน(5)
นอกจากการติดต่อกันระหว่างแพทย์หรือทีมผู้ดูแลรักษาแล้วการติดต่อระหว่างผู้ป่วยกับแพทย์เฉพาะทางโดยตรงก็สามารถทำได้ผ่านเทคโนโลยีดิจิตอลโดยอาจใช้เครือข่าย
telemedicine
หรือการทำ video conference
กับผู้ป่วยก่อนมาพบ(6) จากการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบจาก 19 การศึกษา
ผู้ป่วยมะเร็งรวม 709 คนพบว่าผู้ป่วยพึงพอใจในการพบแพทย์ทางไกลผ่านเครือข่าย
video consultation เทียบเท่ากับการพบแพทย์แบบพบหน้า(7)
แม้เทคโนโลยีดังกล่าวจะเอื้อต่อการติดต่อระหว่างกันของบุคลากรทางการแพทย์แต่ในการดูแลรักษาผู้ป่วยมะเร็งนรีเวชยังมีปัญหาในการใช้เทคโนโลยีเช่นการตรวจร่างกาย
หรือการทำ colposcopy ซึ่งข้อจำกัดนี้สูตินรีแพทย์อาจร่วมมือกันระหว่างโรงพยาบาลในการตรวจร่างกายหรือส่งรายละเอียดสิ่งที่ตรวจพบมาปรึกษาผ่านทางช่องทางต่างๆเพื่อวางแผนการรักษาร่วมกัน
ส่วนการทำ colposcopy ซึ่งสามารถปรึกษากับสูตินรีแพทย์ที่โรงพยาบาลใหญ่ก็สามารถทำได้และมีการศึกษาว่าแพทย์ที่ใช้มีความพึงพอใจ
และให้ผลการคัดกรองที่ยอมรับได้และเริ่มมีการนำมาใช้ในหลายประเทศ(8-10)
รูปที่ 1
ตัวอย่าง colposcopy telemedicine equipment จากซ้ายไปขวา
- Gynocular device, telemedicine smartphone based patient record system,
clinical examination and Swede score tool.
การผ่าตัด
ในปัจจุบันแม้มีการพัฒนาการผ่าตัดทางไกลหรือ
telesurgery โดยเป็นการผ่าตัดด้วยหุ่นยนต์
และมีการสั่งการจากแพทย์ซึ่งอยู่อีกจุดหนึ่งแต่ด้วยราคาที่แพง
และการกระจายของผู้เชี่ยวชาญยังไม่มากจึงยังไม่เป็นที่แพร่หลาย
ในด้านมะเร็งนรีเวชการใช้หุ่นยนต์ผ่าตัดยังไม่ได้เป็นการรักษามาตรฐาน ดังนั้นเทคโนโลยีดิจิตอลที่มีการนำมาใช้เพื่อช่วยในการรักษาในการผ่าตัดโดยส่วนใหญ่อยู่ในรูปของ
telementoring หรือการให้คำแนะนำระหว่างการผ่าตัดโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ
ซึ่งมีการพัฒนารูปแบบและมีการศึกษาพบว่าให้ผลเป็นที่น่าพอใจ(11-12) นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาการส่งตรวจทางพยาธิวิทยาโดยส่ง
fresh frozen โดยมีการปรึกษาผ่านทาง telepathology(13) ด้วย
ซึ่งทั้งสองรูปแบบช่วยให้สูตินรีแพทย์ทั่วไปสามารถผ่าตัดผู้ป่วยมะเร็งได้
หากจำเป็นต้องผ่าตัดและไม่สามารถส่งตัวได้เร็วเนื่องจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19
การติดตามหลังการรักษา
สูตินรีแพทย์สามารถติดตามการรักษาโดยการใช้
video
conference การโทรศัพท์ หรือ แอปพลิเคชันส่งข้อความได้เช่นเดียวกับการประเมินก่อนการรักษา
โดยจากการศึกษาพบว่าผู้ป่วยที่เข้ารับการผ่าตัดมีความพึงพอใจในการติดตามผ่านการใช้เทคโนโลยีดิจิตอล(14) นอกจากนั้นการใช้เทคโนโลยียังช่วยเพิ่มการเข้าถึงการให้จิตบำบัด
หรือการให้การดูแลแบบประคับประคองในรูปแบบที่หลากหลายเช่นทาง website หรือ application โดยจากการทบทวนวรรณกรรมอย่างเป็นระบบ
และการวิเคราะห์อภิมานของผู้นิพนธ์พบว่าการให้จิตบำบัดทางออนไลน์ช่วยเพิ่มคุณภาพชีวิตทางจิตใจ
ทำให้ผู้ป่วยนอนหลับได้ดีขึ้น
แต่โดยรวมยังไม่สามารถลดโอกาสการเกิดภาวะวิตกกังวลหรือซึมเศร้าได้(15)
เทคโนโลยีดิจิตอลอุบัติใหม่ที่มีแนวโน้มจะสามารถนำมาใช้ได้ในอนาคต
ปัญญาประดิษฐ์
(artificial
intelligence; AI)
เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ได้เริ่มนำมาใช้ในทางมะเร็งนรีเวชมากขึ้นโดยเฉพาะการใช้ในการวินิจฉัยความผิดปกติที่ปากมดลูกในการทำ
colposcopy
เทคโนโลยีดังกล่าวทำให้การวินิจฉัยปากมดลูกที่ผิดปกติทำได้โดยเร็วผ่านการใช้
AI application โดยจากการศึกษาพบว่า การใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์สำหรับจัดกลุ่มความผิดปกติของปากมดลูกในการทำ
colposcopy ให้ผลที่น่าพอใจในทางคลินิก(16)
Telemonitoring
ปัจจุบันเริ่มมีการใช้เทคโนโลยีดิจิตอลมาประยุกต์ใช้ในการติดตามอาการของผู้ป่วยที่บ้าน
โดยในต่างประเทศที่ใช้กันอย่างกว้างขวางได้แก่ การใช้เทคโนโลยี IoT
โดยผู้ป่วยสามารถเข้าใช้ผ่านอุปกรณ์ IoT หรือผ่านทาง
สมาร์ทโฟน เพื่อติดตามอาการที่บ้าน และใช้ในการ early detection ความผิดปกติต่างๆ ตัวอย่างได้แก่ self-monitoring tools การติดตามสัญญาณชีพ หรืออัตราการเต้นของหัวใจ
และติดตามการนอนหลับซึ่งส่งผลต่ออาการทางจิตและความเครียดของผู้ป่วยมะเร็ง(3,4,15) อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีดังกล่าวจำเป็นต้องอาศัยระบบที่มั่นคง
เสถียร และปลอดภัยในการนำเข้าและส่งต่อข้อมูลการเจ็บป่วย และการดูแลรักษา ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะสำเร็จได้ง่ายหากมีระบบสัญญาณที่ดีเช่น
5G networks และระบบ blockchain ก็จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยในการส่งต่อข้อมูล
ทำให้การใช้เทคโนโลยีดิจิตอลมีความเป็นไปได้ที่จะใช้ในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น(2)
สรุป
ปัจจุบันมีเทคโลโลยีดิจิตอลที่หลากหลายซึ่งสูตินรีแพทย์สามารถนำมาใช้เพื่อให้ผู้ป่วยมะเร็งนรีเวชได้รับการรักษาที่ดีแม้อยู่ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีส่วนใหญ่ถูกพัฒนาขึ้นในต่างประเทศจึงอาจยังไม่รองรับการใช้ในประเทศไทยและยังมีประเด็นสำคัญที่สูตินรีแพทย์ต้องให้ความสนใจทั้งเรื่องความเป็นส่วนตัว การรักษาความลับของผู้ป่วย และการให้ความร่วมมือในการรักษา
เอกสารอ้างอิง
1. Nogami
Y, Komatsu H, Makabe T, Hasegawa Y, Yokoyama Y, Kawana K, et al.; COVID-19 Task
Force of the Japan Society of Gynecologic Oncology. Impact of COVID-19 on
gynecologic cancer treatment in Japan: a nationwide survey by the Japan Society
of Gynecologic Oncology (JSGO). J Gynecol Oncol 2022;33.e8.
2. Aapro
M, Bossi P, Dasari A, Fallowfield L, Gascón P, Geller M, et al. Digital health
for optimal supportive care in oncology: benefits, limits, and future
perspectives. Support Care Cancer 2020; 28:4589-612.
3. Shalowitz
DI, Smith AG, Bell MC, Gibb RK. Teleoncology for gynecologic cancers. Gynecol
Oncol 2015; 139:172-7.
4. Morris
BB, Rossi B, Fuemmeler B. The role of digital health technology in rural cancer
care delivery: A systematic review. J Rural Health 2021.
5. Satcher
R.L., Bogler O., Hyle L., Lee A., Simmons A, Williams R., et al. Telemedicine
and telesurgery in cancer care: Inaugural conference at MD Anderson Cancer
Center. J. Surg Oncol 2014; 110:353-9.
6. Sabesan
S. Medical models of teleoncology: current status and future directions. Asia
Pac. J Clin Oncol 2014; 10:200-4.
7. Kitamura
C., Zurawel-Balaura L., Wong R.K.S. How effective is video consultation in
clinical oncology? A systematic review. Curr Oncol 2010; 17:17-27.
8. Hitt
W.C., Low G., Mac Bird T., Ott R. Telemedical cervical cancer screening to
bridge medicaid service care gap for rural women. Telemed J E Health 2013;
19:403-8.
9. Sato
M, Shintani D, Hanaoka M, Sato S, Miwa M, Ogasawara A, et al. A pilot study of
mobile digital colposcopy in Japanese patients with cervical intraepithelial
neoplasm. Mol Clin Oncol. 2021; 15:207.
10. Taghavi
K, Banerjee D, Mandal R, Kallner H.K., Thorsell M, Friis T, et al. Colposcopy
telemedicine: live versus static swede score and accuracy in detecting CIN2+, a
cross-sectional pilot study. BMC Womens Health. 2018; 18:89.
11. Murugesu
S, Galazis N, Jones BP, Chan M, Bracewell-Milnes T, Ahmed-Salim Y, et al.
Evaluating the use of telemedicine in gynaecological practice: a systematic
review. BMJ Open 2020 Dec 7; 10:e039457.
12. Gambadauro
P., Magos A. NEST (network enhanced surgical training): a PC-based system for
telementoring in gynaecological surgery. Eur J Obstet Gynecol Reprod Biol.
2008; 139:222-5.
13. Pantanowitz
L., Dickinson K., Evans A.J., Hassell L.A., Henricks W.H., Lennerz J.K., et.
al. American Telemedicine Association clinical guidelines for telepathology. J
Pathol Inform 2014; 5:39.
14. Watanabe
S.M., Fairchild A., Pituskin E., Borgersen P., Hanson J., Fassbender K. Improving
access to specialist multidisciplinary palliative care consultation for rural
cancer patients by videoconferencing: report of a pilot project. Support Care
Cancer 2013; 21:1201-7.
15. Chandeying
N, Thongseiratch T. Online Interventions to Improve Mental Health of Pediatric,
Adolescent, and Young Adult Cancer Survivors: A Systematic Review and Meta-Analysis.
Front. Psychiatry 2021; 12:784615.
16. Akazawa
M, Hashimoto K. Artificial intelligence in gynecologic cancers: Current status
and future challenges - A systematic review. Artif Intell Med. 2021; 120:102164.